เรื่องย่อ : “คุณสคามันดอร์! เฮ้ คุณ ห้ามหลับเด็ดขาดนะ! ได้ยินผมรึเปล่า?”
…ได้ยิน…
เสียงห้าวเต็มไปด้วยความตระหนกเอ่ยชื่อเขาซ้ำไปซ้ำมา ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงแรงเขย่าที่หัวไหล่ไม่หยุด หวังให้เขาตอบรับเสียงเรียกนั้น อีกฝ่ายอาจจะไม่รู้ว่าเขาพยายามอย่างหนักที่จะเปล่งเสียงตอบรับแต่ของเหลวกลิ่นคาวเหล็กก็พลันขย้อนขึ้นมาถึงหลอดลมจนสำลัก และหายใจแทบไม่ทัน
“ปัดโธ่เว้ย!”
เขาได้ยินเสียงเดิมสบถจนอดไม่ได้ที่จะพยายามขยับศีรษะมองทางต้นเสียง ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวจนแทบจับความคมชัดของใบหน้าเจ้าของเสียงไม่ได้ แต่ไม่ทันไร ร่างนั้นก็ผุดลุกขึ้นพร้อมกับตวัดไม้แท่งยาวในมืออย่างรวดเร็ว แสงสีฟ้าพุ่งออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ปะทะกับแสงสีเขียวที่พุ่งเข้าใส่
ท่ามกลางความพร่ามัวนั้น เขาเห็นร่างสูงในเสื้อโค้ทตัวยาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินใบไม้หญ้าขยับมาบังตัวเขาไว้ จนเขามองไม่เห็นอีกฝ่ายกำลังร่ายมนต์ต่อสู้กับใคร
ไม่สิ มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…
เขาเค้นแรงที่เหลืออันน้อยนิดค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นขณะข่มความเจ็บปวดที่พลุ่งพล่านจากบาดแผลที่ช่วงท้อง สัมผัสแข็ง ๆ ที่มือขวาทำให้เขายังรู้ว่าอาวุธคู่กายยังไม่หายไปไหน แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็มีแรงฉุดที่ข้อมือให้เขาล้มกลิ้งไปกับพื้น และตกลงไปที่ทางต่างระดับของเนินดิน
เขารู้สึกถึงวงแขนที่โอบรอบตัวเขาขณะที่ทั้งเขาและอีกฝ่ายกลิ้งไปชนรากไม้แข็งขนาดใหญ่ แรงสะท้อนทำเอาเขาเจ็บแผลจนตาพร่ามากกว่าเดิม เขารู้ว่าอีกฝ่ายต้องเจ็บไม่แพ้กันแน่ ๆ แต่วงแขนที่โอบรอบตัวเขากลับกระชับแน่นกว่าเดิม ไรผมแข็งกระด้างเสียดสีอยู่ใบหน้าเขาจนรู้สึกแสบ
“อย่าเพิ่งลุก”เสียงห้าวกระซิบแหบพร่าอยู่ข้าง ๆ หูจนอดสะดุ้งไม่ได้ เขากำลังจะโต้ตอบกลับ พลันก็รู้สึกว่าพื้นดินข้าง ๆ ยวบลงเหมือนกับมีอะไรบางอย่างทิ้งตัวลงมาอย่างนุ่มนวล เสียงปีกกระพือเสียดสีอากาศดังขึ้นพร้อมเสียงร้องแผ่วเบาเรียกให้เขาและคนข้าง ๆ หันไปมอง วงแขนที่โอบรอบคลายลงเล็กน้อย เขาจึงถือโอกาสนี้ค่อย ๆ ดันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า
“แฟรงค์…”
เขาพยายามลุกขึ้น แต่กลายเป็นปีกขนาดใหญ่ของพญาอินทรีย์กลับดันให้เขานอนลง ดวงตาคมกริบบนใบหน้าดุร้ายประกายห่วงใย และโศกเศร้าจนเขาสะอึก “…ฉันไม่…” แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยจนจบ ร่างมหึมาของสัตว์วิเศษก็ถลาออกบิน สายลมแรงตีกลับผลักให้เขานอนราบกับพื้นอีกครั้ง
“แม้แต่พวกมันก็ยังอยากให้คุณอยู่ต่อ เห็นรึเปล่า”
เขายันกายให้ลุกขึ้นอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะว่ายังไง แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ใจหล่นวูบ กระบอกตาร้อนผ่าว ปวดแสบปวดร้อนจนใบหน้าเหยเก มือขวาที่กำไม้กายสิทธิ์แน่นสั่นระริกจนควบคุมไม่ได้ ตอนนั้นเองที่ความคิดขาวโพลนและเตรียมตัวพุ่งออกไป แต่กลับถูกมือหนาฉุดเอาไว้
“ผมเองก็อยากให้คุณอยู่ต่อ”
ดวงตาสีเขียวมองใบหน้ากร้านก่อนจะมองไปรอบกาย ร่างขนาดเล็กใหญ่ของเหล่าสัตว์วิเศษนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงจนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย แล้วประกายที่หม่นมองในดวงตาก็หันกลับมามองอีกฝ่ายอีกครั้ง “แต่ผมยืนมองเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้ คุณเกรฟ”
“ผมรู้”
เสียงกรีดร้องแสบหูด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจนกิ่งไม้สั่นไหว ก่อนที่เสียงบางอย่างร่วงลงพื้นจะดังตามไป พื้นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่นจนพวกเขาเซ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็หันหน้าไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาตัวสั่นสะท้านเมื่อได้รู้ว่าต้นกำเนิดเสียงนั้นคืออะไร แต่ชั่วพริบตานั้นเองที่ทั้งคู่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาพร้อมกัน แสงสีเหลืองพุ่งออกจากปลายไม้พร้อมกัน และปะทะแสงสีแดงที่พุ่งสวนมาในเวลาเดียวกัน
ดวงตาสีเขียวสะท้อนแสงการปะทะกันของคาถา พร้อมกันนั้น…ความโศกเศร้าและความเกรี้ยวกราดก็ปรากฏขึ้นในแววตาคู่นั้น
เรื่องแบบนี้…มันเกิดขึ้นได้ยังไง
ส่วนที่อยากบอก : เป็นผลงานแฟนฟิคชั่นที่เขียนเองคนเดียวเรื่องแรกเลยค่ะ ที่จริงรวมเล่มครั้งแรกเมื่องาน Fantastic Beasts Only #1 ครั้งแรก อยากทำเรื่องใหม่ แต่ด้วยเวลาและงานประจำที่รัดตัวมากทำให้เขียนเรื่องใหม่ไม่ทัน T_T
คู่นี้ไม่ใช่คู่หลักก็จริง แต่กลายเป็นว่ากำลังจะกลายเป็นคู่หลักแล้วล่ะ 555 (ที่จริงเรือนี้ก็น้อยมาก ใครเรือนี้ก็มาช่วยกันแจวนะคะ ^_^)
ช่องทางการติดต่อ :
Twitter : @Seiji_18
Website : https://aqualisblog.wordpress.com/