1. Coop: เราตั้งใจจะเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน
สายผลิตมีความเป็นเจ้าของร่วมกันกับเรามากขึ้น

Coop Company หรือที่เรียกว่า “สหกรณ์” (Co-operative)
คือองค์กรหรือธุรกิจที่เป็นเจ้าของและควบคุมโดยสมาชิกขององค์กรเอง
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการและตอบสนองความต้องการทาง
เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของสมาชิกผ่านการดำเนินงาน
ที่เป็นเจ้าของร่วมกันและมีการควบคุมแบบประชาธิปไตย

สหกรณ์มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป เช่น:

การเป็นเจ้าของร่วมกัน:
สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ในการตัดสินใจ
การควบคุมแบบประชาธิปไตย:
สมาชิกมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สำคัญ
การแบ่งปันผลประโยชน์ และความรับผิดชอบ:
ผลกำไรที่ได้จากการดำเนินงานจะถูกแบ่งปันให้กับสมาชิกตามสัดส่วน
การใช้บริการหรือการมีส่วนร่วม

ตัวอย่างของสหกรณ์ที่รู้จักกันดีคือ Coop Group
ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง
ที่มีประวัติยาวนานกว่า 160 ปี

หรือเพิ่มเติมที่  youtube นี้

2. งานกลุ่ม : ชวน Artists
มาร่วมกันสร้างผลงาน

แนวคิด:
สร้างพื้นที่ที่ช่วยให้นักสร้างสรรค์จากหลากหลายสายงาน
สามารถทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างผลงานที่แปลกใหม่
และหลากหลายยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำ:

โครงการ Collaboration:
เปิดรับไอเดียสำหรับผลงานใหญ่ เช่น หนังสือรวมภาพ,
การจัดนิทรรศการ หรือโปรเจกต์การกุศล

แพลตฟอร์มเชื่อมโยง:
สร้างกลุ่มออนไลน์หรือบอร์ดประกาศงาน
ที่ช่วยให้นักสร้างสรรค์เจอกันง่ายขึ้น เช่น
“หานักวาดร่วมโปรเจกต์” หรือ
“หาคนเขียนเนื้อหาเพิ่มงานชึ้นใหม่”

ตัวอย่าง:

จัดโครงการ “Art for Unity”
โดยให้นักวาดหลายคนช่วยกันสร้างหนังสือ
รวมภาพที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนเรา

3. หน่วยอาสา ช่วยคิด ช่วยทำ
ช่วยส่งเสริมชุมชนนักสร้างสรรค์

แนวคิด:
ชวนผู้ที่รักในชุมชนให้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและสนับสนุนนักสร้างสรรค์

สิ่งที่ทำ:

จัดตั้งทีมอาสาสมัคร:
เช่น ทีมช่วยแพ็คงาน, ช่วยจัดนิทรรศการ, หรือทีมช่วยดูแลระบบออนไลน์

กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์:
เช่น การจัดเวิร์กชอปฟรี, คลาสออนไลน์สอนเทคนิคการวาด, การเขียน หรือการตลาด

ชุมชนออนไลน์:
เปิดกลุ่มที่เน้นการแชร์ความรู้หรือช่วยตอบคำถาม เช่น เทคนิคการทำผลงาน การจัดการภาษี หรือการหาลูกค้า

ตัวอย่าง:

จัดกิจกรรม “วาดด้วยกัน” ออนไลน์ โดยเชิญศิลปินชั้นนำมาสอนวาดภาพ พร้อมให้ทุกคนร่วมวาดและพูดคุยกัน

4. การจัดงาน Expo สำหรับนักสร้างสรรค์

แนวคิด:
จัดงานที่เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์ได้พบปะกัน
พร้อมแสดงและขายผลงานแก่ผู้ชมในวงกว้าง

สถานที่และเวลา: เลือกพื้นที่เหมาะสมและกำหนดวันที่ชัดเจน
เพื่อดึงดูดผู้เข้าร่วมทั้งจากในและนอกชุมชน

การประชาสัมพันธ์: ใช้ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อกระจายข่าว
เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือสื่อพาร์ทเนอร์

กิจกรรมในงาน: เช่น การแสดงผลงาน, Workshop,
พูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ และการประกวด

ตัวอย่าง:

งาน “Creative Connect 2025”
ซึ่งรวมนักสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขามาแสดงผลงาน
เช่น ภาพวาด, งานเขียน, โมเดล, และสินค้าแฮนด์เมด
พร้อมกิจกรรมสอนเทคนิคและการตลาด

ประโยชน์ของแนวทางทั้งหมด

สำหรับสายผลิต:

ได้รับโอกาสแสดงความสามารถและเชื่อมต่อกับคนในสายงานเดียวกัน
มีพื้นที่ปลอดภัยและสนับสนุนให้ทำงานสร้างสรรค์ต่อไป
เพิ่มความมั่นคงในชีวิตและการทำงาน

สำหรับชุมชน:

สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิก
ดึงดูดผู้เข้าร่วมใหม่และเพิ่มความหลากหลายในผลงาน
ทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักและเติบโตอย่างยั่งยืน